วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เครดิตอเมริกา - ทองคำ - หุ้นไทย


เชื่อว่าในแวดวงธุรกิจการเงินช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่มีเรื่องใดรุนแรงเท่ากับการที่สหรัฐอเมริกาถูกปรับลดเครดิต ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งติดจรวดและหุ้นตกแทบถล่มทลายในเวลาต่อมา

เล่าย้อนให้ฟังนิดนึงครับ นักลงทุนต่างชาติเนี่ยเป็นพวกที่มีเงินเยอะ เขาชอบลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร แต่ด้วยความที่ตลาดมันใหญ่เขาก็จะไม่รู้ว่าแต่ละบริษัทมันดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็เลยมีใครบางคน...โผล่เข้ามารับหน้า โดยรวบรวมข้อมูลของบริษัทต่างๆ แล้ววิเคราะห์ออกมาเป็นฉากๆ ว่าบริษัทนี้เครดิตดี บริษัทนี้เครดิตแย่ ว่าแล้วก็จัดเรียงลำดับเสียด้วยเลยว่าใครเจ๋งกว่าใคร

ใครบางคนที่ว่านี่ก็คือพวกบริษัทจัดอันดับเครดิตนั่นเอง

บริษัทจัดอันดับเครดิตในต่างประเทศที่ใหญ่ๆ ก็มีอยู่ 3 เจ้า คือ S&P (เอส แอนด์ พี ...ไม่ใช่ร้านอาหารนะครับ อันนั้นผมกินบ่อย) Moody's (มูดี้ส์) และ Fitch (ฟิทช์) แล้วนอกจากจัดอันดับให้กับบริษัทเอกชนแล้วเขายังจัดอันดับให้กับแต่ละประเทศอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกาย่อมได้รับอันดับเครดิตที่แจ๋วที่สุด นั่นคือ ทริปเปิ้ลเอ หรือ AAA

แย่หน่อยครับ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอเมริกาโดนลดอันดับจาก AAA ซึ่งถือว่าเจ๋งที่สุดลงมาเหลือ AA+ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีรองลงมา เรียกว่าห่างชั้นกันปิ๊ดเดียว แต่ว่าก็ว่าเถอะ ดีแค่ไหนแต่ได้ชื่อว่าโดนลดอันดับก็เสียขวัญกันยกใหญ่ นักลงทุนทั่วโลกต่างคิดกันว่าเศรษฐกิจอเมริกาแย่แล้ว ก็เลยไม่มีใครอยากลงทุนในอเมริกา สิ่งที่เขาทำกันก็คือ ขาย ขาย ขาย อะไรก็ตามที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ ขายหมด ขายหุ้น ขายพันธบัตร แล้วโยกเงินไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า

สินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าดอลลาร์ในตอนนี้ก็คือทองคำนั่นเอง คนเรารู้จักทองคำมานับพันปีแล้ว ต่อให้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เห็นทองคำปุ๊บก็ตาโตอยากได้ การถือทองคำจึงการันตีได้ว่าไม่มีทางสูญค่าแน่นอน (แต่จะมีราคาเท่าไหร่ค่อยว่ากันอีกที)

การที่คนเปลี่ยนมาถือครองทองคำส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจนเกิดปรากฏการณ์ตื่นทอง ชนิดที่ว่าร้านทองต้องออกใบจองให้แล้วให้ผู้ซื้อมารับทองคำในสัปดาห์ถัดไป ส่วนฟิวเจอร์สทองคำก็มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นแบบพุ่งพรวด ความจริงผมคิดว่าฝรั่งเขาซื้อทองเพราะกลัววิกฤติเศรษฐกิจและต้องการโยกเงิน แต่คนไทยซื้อทองคำเพราะเห็นว่าราคามันวิ่งดี (ฮ่าๆ) ไม่ใช่ว่าตกใจกลัววิกฤติอะไรหรอก

นอกจากเรื่องตื่นทองแล้ว นักลงทุนในบ้านเราเห็นฝรั่งเทขายหุ้นที่ต่างประเทศก็ตกใจ พลอยเทขายหุ้นไทยกะเค้าด้วย ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยแต่ว่าเป็นกันทั่วโลก ต่อจากนี้คงต้องจับตาดูว่าตลาดหุ้นจะยังลงไปถึงไหน แต่ตามทัศนะของผม หุ้นไทยจำนวนมากไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง หากราคาหุ้นลงมามากๆ จริงก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจครับ

ในตอนวิกฤติฟองสบู่มันมีคนเจ๊ง เบี้ยวหนี้ สถาบันการเงินปิด ในตอนวิกฤติซับไพร์ม สถาบันการเงินเจ๊งเป็นลูกโซ่ แต่ในการ downgrade สหรัฐอเมริกาตอนนี้ยังไม่มีใครเจ๊ง สถานภาพการคลังของอเมริกาก็ยังคงดีเท่าเดิม (หรือเละเทะเท่าเดิม) ขาดก็แต่ความเชื่อมั่น ถ้าไม่มีอะไรถล่มเพิ่มเติม ตอนนี้เป็นช่วงที่ดีสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ value investor ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น