วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แมงเม่า กับ เล่าปี่

 

"สามก๊ก" จัดได้ว่าเป็นวรรณกรรมอมตะเรื่องหนึ่งในหมู่คนไทย ทั้งที่เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศจีนตั้ง 1,800 กว่าปีมาแล้ว แต่ถึงทุกวันนี้ ทุกคนต่างก็รู้จัก ขงเบ้ง ในแง่ของความเฉลียวฉลาด รู้จัก โจโฉ ในแง่ของความเก่งแกมโกง หรือรู้จัก กวนอู ในนามของเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์

นอกจากสำนวนแปลอันคมคายมีเอกลักษณ์ของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) แล้ว ตัวเนื้อเรื่องสามก๊กเองก็ถือว่า "เฉียบคม" จนมีหลายคนเอาไปประยุกต์ใช้ในการบริหารธุรกิจ ...ทว่า ผมอยากจะหยิบเอาชีวิตของ เล่าปี่ ซึ่งเป็นตัวละครเอกท่านหนึ่งในเรื่องมาประยุกต์กับ "ประชากรส่วนใหญ่" ของตลาดหุ้นกันครับ


ชีวิตของเล่าปี่


เล่าปี่ เป็นหนึ่งในเจ้าก๊กครองดินแดนเสฉวน แม้จะมีเชื้อสายราชวงศ์ฮั่น แต่ทุกคนก็รู้ว่าเขาเป็นเพียง "เชื้อพระวงศ์ตกยาก" ชีวิตลำบากตั้งแต่เด็กจนโต ต้องทอเสื่อขายเลี้ยงชีพ แม้ในภายหลังที่เริ่มตั้งตัวได้และเป็นแม่ทัพแล้ว พอเผชิญหน้ากับศัตรูก็เป็นต้องโดนเย้ยหยันว่า "ไอ้คนทอเสื่อขาย" แทบทุกครั้งไป

ผมเองก็ไม่รู้ว่าการทอเสื่อขายมันเสียหายตรงไหน บางทีถ้าเล่าปี่เปิดร้านขายข้าว ก็คงจะโดนด่าว่า "ไอ้คนขายข้าว" หรือถ้ารวยเป็นเศรษฐี ก็คงโดนด่าว่า "ไอ้คนมีเงินเยอะ" ก็ว่ากันไป เอาเป็นว่าคนเกลียดกันก็หาเรื่องด่ากัน

หลังจากที่เล่าปี่ทิ้งอาชีพคนขายเสื่อหันมาจับกระบี่เป็นทหาร ชีวิตของเขาก็ยังไม่ได้ดีขึ้นมากมายนัก แม้จะมี กวนอู และ เตียวหุย ซึ่งเป็นน้องร่วมสาบานคอยช่วยเหลือจนรบชนะหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลาภยศอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เล่าปี่เคยได้เป็นนายอำเภอ แต่ไม่นานก็ต้องทิ้งตำแหน่งไป เคยได้เป็นเจ้าเมือง ทว่าก็ถูกตีจนเมืองแตก ต้องระหกระเหินลำบากยากแค้นอยู่เสมอๆ

เล่าปี่เริ่มตั้งตัวได้เป็นหลักแหล่งจริงๆ ก็ตอนที่ได้บรมกุนซืออย่าง ขงเบ้ง มาเคียงข้าง คอยวางแผนและบัญชาการรบ ขงเบ้งเป็นคนที่ทำให้เล่าปี่เลิกมองการรบเป็นครั้งๆ ไป แต่มองการรบให้เป็นภาพใหญ่ มีการจัดสรรกำลังทหาร "เท่าที่มี" อย่างชาญฉลาด พูดภาษาสมัยใหม่ก็บอกว่ามีการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งนั่นก็นำไปสู่การยึดครองดินแดนเสฉวนและสถาปนาตัวเองเป็น พระเจ้าเล่าปี่ ได้ในที่สุด


ชีวิตของแมงเม่า


เราอาจไม่เคยคิดว่าชีวิตของเล่าปี่จะมีความหมายอะไรกับแมงเม่าในตลาดหุ้น แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่า ชีวิตของแมงเม่าก็ไม่ต่างอะไรกับเล่าปี่ในช่วงต้น

แมงเม่าอาจเคยได้กำไรมานิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่ทำให้ร่ำรวยเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาได้ มีกำไรอยู่ได้ไม่นานก็กลับไปขาดทุนอีกแล้ว พวกเขาได้แต่แสวงหาตัวหุ้นใหม่ๆ เล่นรอบไปเรื่อยตามวิถีการ "เล่นหุ้น" อะไรที่คนอื่นว่าดีก็ลองหมด บางคนก็เล่นหุ้นด้วยความสนุกและความรัก... แต่มันก็ไม่ทำให้ชีวิตของพวกเขามั่นคงและสุขสงบได้เลย

ผมมองว่าแมงเม่าที่ต้องการความมั่งคั่งและความคงเส้นคงวา ควรจะต้องมองหา "จุดเปลี่ยน" อย่างเดียวกับที่เล่าปี่ได้ขงเบ้งมาเป็นกุนซือ พวกเขาควรเลิกมองการซื้อขายหุ้นเป็นครั้งๆ ไป แต่ให้มองมันเป็นภาพใหญ่ การซื้อขายหุ้นของเราไม่จำเป็นต้องได้กำไรทุกครั้ง แต่ว่าภาพใหญ่ของเราต้องกำไรให้ได้!

ถ้าเราเทรดหุ้นแบบ "มั่วไปเรื่อย" เราก็ไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในระยะยาว ในทางกลับกันถ้าเราเทรดหุ้นอย่างมีระบบ เราก็จะรู้ผลลัพธ์ในระยะยาวได้จากค่าเฉลี่ยของระบบ สิ่งสำคัญก็คือ เราเทรดหุ้นอย่างมีระบบระเบียบหรือไม่ นี่อาจจะเป็น "ขงเบ้ง" ที่เราต้องการก็ได้

คนเก่งจริงต้อง "ใช้เท่าที่มี" ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โอกาสเดียวของกองทัพเล็กๆ ที่จะชนะ ก็คือ ต้องวางแผนอย่างชาญฉลาด และงัดเอาสิ่งที่เรามีขึ้นมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา

ในการลงทุนก็ไม่แตกต่างกัน เมื่อเรามีเงินน้อยก็ต้องใช้มันอย่างฉลาด เราต้องมองหา "แต้มต่อ" ของเราให้เจอ แต้มต่อของนักเก็งกำไรก็คือ การอยู่กับแนวโน้ม แต้มต่อของ VI ก็คือ Margin of Safety แล้วแต้มต่อของแมงเม่าคืออะไร ใครจะตอบได้?!


ฝากให้คิด


หลายคนคิดว่าตัวเองเริ่มต้นจากเงินน้อยๆ คงไม่มีทางที่จะรวยขึ้นมาได้ ขอให้มองดูเล่าปี่ที่เริ่มต้นจากตัวเปล่าๆ ครับ มันอาจจะใช้เวลา แต่ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมเชื่อว่าผลลัพธ์ที่ดีย่อมตามมาเอง

หากเราได้แต่ "เม่า" ไปวันๆ ผ่านไปสิบปีก็คงเป็นแมงเม่าอยู่อย่างนั้น


ภาพประกอบเป็นหน้าปกสามก๊กฉบับวณิพกของยาขอบครับ

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ1 ตุลาคม 2555 เวลา 18:45

    ให้ข้อคิดที่ดี ขอขอบคุณผู้เขียนครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2555 เวลา 21:27

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ15 ตุลาคม 2555 เวลา 15:11

    เปรียบเทียบได้เยี่ยมครับ

    "ควรจะต้องมองหา "จุดเปลี่ยน" อย่างเดียวกับที่เล่าปี่ได้ขงเบ้งมาเป็นกุนซือ"

    Unsign

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณทุกท่านครับ

    ใครยังหาจุดเปลี่ยนไม่เจอ อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะเจอเมื่อไหร่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

    ตอบลบ
  5. ว่าแต่ว่า จุดเปลี่ยนอย่างขงเบ้ง มันหาไม่ได้ง่าย ๆ น่ะสิครับ
    ร้อยปีจะมีสักคน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ลองมองอีกแง่สิครับ บางทีคนอย่างขงเบ้งอาจจะมีอยู่ทุกยุคสมัยก็ได้
      คนอย่างเล่าปี่(ที่เพียรพยายามไปคารวะขงเบ้งจนชนะใจได้)ต่างหากที่หายาก

      พอคิดอย่างนี้ เราก็ทำในส่วนของเรา เช่น เฟ้นหาคนเก่งมาช่วยงาน อย่างไม่ลดละ
      แม้ได้ไม่ถึงขงเบ้ง แต่ได้ซักระดับ ชีซี หรือ กุยแก ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ดีได้แล้วครับ

      ลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2555 เวลา 22:01

    แจ่ม !! ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ10 มกราคม 2557 เวลา 15:05

    เห็นด้วยครับ

    ตอบลบ