ผมมีโอกาสได้เปิดหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับหนึ่งแล้วพบบทความดีๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ
คอลัมน์ผู้นำตามสั่ง โดย รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข ซึ่งท่านก็นำเนื้อหามาจาก Harvard Business Review อีกที เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ผู้นำที่ทำลูกน้องหมดไฟ" ซึ่งผมเองคิดว่าคนที่มีลูกน้องควรอ่านและคิดตามไป
"ผู้นำบางคนนั้นมีความสามารถที่ทำให้ลูกน้องเกิดอาการ...หมดใจหมดไฟทำงานได้โดยที่ผู้นำคนนั้นไม่รู้ตัว...หรือผู้นำบางคนก็ไม่สามารถดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดของลูกน้องออกมาได้ ประมาณว่าปั้นดินให้เป็นดาวไม่เป็น หรือในบางกรณีอาจจะถึงขนาดดับประกายดาวแล้วลากดาวลงดินก็ยังได้...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้นำนั้นไม่ยักรู้สึกตัวเลยว่าตนเองเป็นสาเหตุของความล้มเหลว"
มีใครอ่านแล้วขนลุกซู่ เพราะว่าตัวเองกำลังเป็นผู้นำประเภทนี้หรือเปล่า หวังว่าคงจะไม่นะครับ
ในบทความดังกล่าวระบุสัญญาณอันตราย 3 ประการของการเป็นผู้นำยอดแย่ ได้แก่
- เป็นผู้มีวิสัยทัศน์อันบรรเจิด - ปัญหาเกิดจากว่าวิสัยทัศน์ของผู้นำนั้น "บรรเจิด" มากเกินไป ใช้เวลามากเกินไปในการขายฝันของตัวเอง โดยหวังว่าลูกน้องจะอินตามไปด้วยและไม่สนใจว่าลูกน้องจะพยายามทักท้วงหรือเสนอแนะอะไร
- เป็นนักพูด - ผู้นำที่เป็นนักพูดและมี passion หรือมีความลึกซึ้งในสิ่งที่ตนเองเชื่อมากๆ จนกระทั่งติดอยู่แต่กับเรื่องที่ตนเองอยากพูดและไม่รับฟังสิ่งที่คนอื่นพูด (หรือทำเป็นฟัง แต่ก็ฟังไปงั้นๆ ไม่ได้คิดตาม) ลูกน้องก็จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการฟังผู้นำ "จ้อ" หรือ "ฟุ้ง" แต่ไอเดียของตัวเอง
- เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ - ในกรณีนี้หมายถึงผู้นำที่มีไอเดียกระฉูด คอยหาไอเดียใหม่ๆ แบบไม่หยุดยั้ง ชนิดที่ว่าโปรเจกเก่ายังไม่ทันคืบหน้าก็หาโปรเจกใหม่มาอีกแล้ว หรือสั่งงานไปอย่างหนึ่ง พอผ่านไป 2 วันก็แก้ใหม่ แก้แล้วแก้อีก แก้แล้วแก้อีก แก้แล้วก็ยังแก้อีก เฮ้ย! นี่มันเกินไปแล้วนะ แบบนี้ลูกน้องก็หัวปั่นสิครับ
หัวหน้างานคนไหนชอบและอยากตัดเก็บไว้แปะโต๊ะทำงานก็ตามสบาย แต่ลูกน้องรายไหนชอบก็ตัดเก็บไว้เฉยๆ นะครับ อย่ามาแปะไว้ที่โต๊ะทำงานล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
อ่านแล้วเกิดปิ๊งถึงหน้าคนบางคนขึ้นมาเลยทีเดียว
ตอบลบส่วนมากเราจะนึกว่า ผู้นำที่ทำให้ลูกน้องหมดไฟ น่าจะเป็นประเภทจู้จี้ขี้บ่น เข้มงวด
จนลืมนึกไปว่า ไอ้ประเภท "สร้างสรรค์" จน "ฟุ้ง" บางทีก็เข้าขั้น "เหลวไหล" พอลูกน้องเถียงก็ไม่ฟัง หาว่าไม่เข้าใจความฟุ้งของแก
เหมือนใครบางคนที่ผมคุ้นเคยจริงๆ