วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

House of Derivatives ตอนที่ 12 วิพากษ์ตลาดอนุพันธ์


คราวนี้ขอเปลี่ยนจากแนวให้ความรู้มาเป็นแนววิพากษ์วิจารณ์บ้าง ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีเจตนาตำหนิองค์กรใดๆ อย่างไม่รับผิดชอบ หรือต้องการแสดงตัวว่าเก่งกว่าคนที่ทำงานจริง ผมเพียงแต่มีมุมมองที่อาจจะมีประโยชน์และผู้อ่านก็อาจจะนำไปต่อยอดหรือวิพากษ์อีกต่อหนึ่งก็ได้

ในเมืองไทยตลาดอนุพันธ์ถือว่ายังค่อนข้างหน่อมแน้ม ความจริงเรามีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าหรือ AFET ก่อนที่จะมีตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX ตามมาทีหลัง แต่ถ้าพูดในแง่ความสำเร็จของทั้งสองตลาด ผมคิดว่ายังไม่ค่อย...

เพราะในตลาด AFET ก็มีเพียงยางพารา (ยางแผ่นรมควันชั้น 3) ที่มีการเทรดกัน "บ้าง" ส่วนสินค้าตัวอื่น เช่น ข้าวหอมมะลิ มันสำปะหลัง แต่ละวันแทบจะไม่กระดิกครับ ใกล้ตัวเข้ามาหน่อย ตลาด TFEX เองก็ยังไม่ค่อยโต ความจริงสินค้ามีหลายสิบตัวแต่ที่มีการซื้อขายเยอะหน่อยก็มีเพียง SET50 futures กับ gold futures แต่ก็เฉพาะซีรีส์ที่ใกล้ที่สุดเท่านั้นนะครับ ซีรีส์ที่หมดอายุเดือนอื่นมีซื้อขายกันหงอยๆ

สำหรับ single stock futures ตอนนี้เรามีฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัวอยู่ 14 ตัว แต่มีการเทรดกันจริงจังแค่ไม่กี่ตัว SET50 option ก็มีแต่ก็เทรดกันหรอมแหรม ล่าสุดมีฟิวเจอร์สของอัตราดอกเบี้ยหรือ interest rate futures แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครเค้าเทรดกัน

สรุปว่าสินค้าเรามีเยอะ แต่หาคนเทรดยาก

ผมดูจากในทีวี ผู้บริหารของตลาดฯ มองว่านักลงทุนไม่เข้ามาซื้อขายเพราะยังขาดความรู้ และตลาดฯ มีสินค้าน้อย แต่ตามมุมมองของผม นักลงทุนพร้อมลุยแน่นอนขอเพียงแค่มีโอกาสทำกำไรเท่านั้นเอง ความรู้ไม่เกี่ยว จำนวนสินค้าไม่เกี่ยว เอาเป็นว่าผมขอวิพากษ์รายตัวเลยแล้วกัน

Single stock futures:
ขาดคู่สัญญา ควรจัดให้มีโบรกเกอร์บางรายมาทำหน้าที่เป็นคู่สัญญา และการนำฟิวเจอร์สของหุ้น 14 ตัวโผล่เข้ามาพร้อมกันมันมากเกินไป ความจริงควรใส่เข้ามาทีละ 3-4 ตัว ให้ฮิตก่อนแล้วค่อยเพิ่มจำนวนจะดีกว่า

SET50 option:
ค่าคอมมิชชั่นแพงเกินไป นักลงทุนส่วนมากชอบเทรดออปชั่นที่ราคาถูก ถ้าซื้อออปชั่น 10 สัญญาที่ราคา 1.0 จุด (200 บาท) เจอค่าคอมฯ 91 บาทต่อสัญญาบวกเข้าไปก็อ้วกแล้วครับ

Interest rate futures:
ยังไม่มีดีมานด์ และยังขาดคู่สัญญาด้วยเช่นกัน

ความจริงนักลงทุนสถาบันน่าจะเป็นคนที่มีบทบาทสร้างสภาพคล่องได้มาก ตลาดคึกคักรายย่อยก็กล้าเข้ามา ยิ่งตลาดโตโบรกเกอร์ก็ยิ่งได้ค่าคอมมิชชั่นมาก เมื่อตลาดอนุพันธ์พัฒนาการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนก็จะยิ่งก้าวหน้า อยากจะเห็นวันนั้นครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น