ผมเคยมีความสงสัยว่า ถ้าเราเก็บเงินออมปีแล้วปีเล่าไปจนถึง infinite (ชั่วนิรันดร์) จะสามารถสู้คนที่เอาเงินไปลงทุนได้หรือไม่ แน่นอนว่าถ้าเราเทียบกับคนที่ลงทุนเก่งๆ อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คำตอบที่ได้คือ "ลงทุนรวยกว่า" แหงๆ อยู่แล้ว ...แต่ถ้าเป็นการลงทุนแบบชิลล์ๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ไม่ยากล่ะ?? คนที่ออมอย่างมีวินัยจะสู้ได้หรือเปล่า
ออมเงินถึงชาติหน้า ปะทะ ลงทุนแบบชิลล์ๆ
หนังสือจำพวกบริหารเงินส่วนบุคคลมักบอกให้คนลงทุน โดยยกตัวอย่างการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน 20% (หรืออย่างน้อยๆ ก็ 10-15%) แล้วก็บอกว่า "นี่ไง เห็นมั๊ย! ลงทุนแล้วมีเงินเยอะ" ซึ่งผมเห็นว่าไอเดียก็ดี แต่มันออกจะดีเกินจริงไปสักหน่อย เพราะคนทั่วไปคงทำผลตอบแทนไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพราะแม้กระทั่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองยังทำผลตอบแทนได้ในระดับ 20 เปอร์เซ็นต์ต้นๆ เท่านั้นเอง (ปี 1965-2005 ทำได้เฉลี่ย 21.5% ต่อปี)
งั้นถ้าผลตอบแทนซัก 8% ล่ะ พอไหวมั๊ย? ผมดูสถิติของตลาดหุ้นไทยบวกกับเงินปันผลก็พบว่าน่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างมาก สมมติว่าเราซื้อหุ้นดีๆ ที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในอัตราปีละ 5% ซึ่งน่าจะหาได้ไม่ยาก และคาดหวังให้ราคาหุ้นขยับขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% แค่นี้ก็เข้าทางเราแล้ว เริ่มเลยดีกว่า
ออมเงินแบบมด
ผมเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของมด โดยบอกว่าหากเราเดินช้าๆ ไปเรื่อยแบบที่มดทำ เผลอแป๊บเดียวก็จะไปได้ไกลอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว งั้นถ้าผมออมเงินแบบมดบ้างล่ะ? สมมติว่าเก็บเงินได้เดือนละ 4,000 บาท หรือปีละ 48,000 บาท แล้วออมในระดับนี้ไปเรื่อยๆ ชั่วนิรันดร์ (ผมปรับเพิ่มการออมด้วยนิดหน่อยตามภาวะเงินเฟ้อปีละ 4%)
ปีแรกผมเก็บได้ 48,000 บาท พอปีที่สองผมเก็บ 49,920 บาท คือ บวกชดเชยเงินเฟ้อเข้าไปหน่อย แล้วออมแบบนี้ไปเรื่อยๆ เงินออมของผมจะเป็นไปตามภาพด้านล่างครับ จบ 40 ปีจะมีเงินออมประมาณ 4.56 ล้านบาท
ลงทุนแบบชิลล์ๆ
เทียบกันแบบสมน้ำสมเนื้อ ผมเก็บเงินปีละ 48,000 บาทเหมือนกัน แต่คราวนี้เอาไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 8% ต่อปี พอปีที่สองก็เก็บ 49,920 บาทแล้วเอาไปลงทุนเพิ่มอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอจบ 8 ปีผมก็ไม่ต้องใส่เงินออมเพิ่มแล้ว แค่ปล่อยให้เงินลงทุนโตด้วยตัวของมันเองต่อไป ...จบ 40 ปีผมจะมีเงินทั้งสิ้น 6.79 ล้านบาท

สังเกตนะครับว่าในกรณีที่เราลงทุน กราฟจะหักเล็กน้อยตอนปีที่ 8 นั่นเป็นเพราะเราเลิกใส่เงินออม แต่ถึงกระนั้นพอร์ตการลงทุนของเราก็ยังโตชนะการออมแบบมดโดยตลอด และถ้าเราลากกราฟต่อไปจนถึง infinite ก็คงเดาได้ว่าพอร์ตลงทุนจะยิ่งทิ้งการออมแบบมดแทบไม่เห็นฝุ่น ผมเจตนาเขียนแบบสั้นๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อชี้ให้เห็นว่าแม้เราจะลงทุนแบบพื้นๆ ก็ยังดีกว่าออมเงินไปเฉยๆ แบบไม่ใช้สมอง
ทีนี้ก็ขึ้นกับคุณแล้วล่ะครับ ว่าอยากเหนื่อยเดินแบบมดไปชั่วชีวิต หรือทำการบ้านหน่อยแล้วเหนื่อยแค่ 8 ปี และที่สำคัญ แนวทางนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ใครๆ ก็ทำได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น