สาวๆ ในที่ทำงานของผมมักจะซื้อรองเท้าสวยๆ หรือกระเป๋าถือเก๋ๆ อย่างไม่ยากเย็น แถมยังมักจะเอามาอวดกันตามประสาผู้หญิง โดยเฉพาะถ้าสามารถซื้อมาได้ในราคาถูก แต่เชื่อไหมครับว่าหลายครั้งทีเดียวที่รองเท้านั้นซื้อแล้วก็ไม่ได้ใช้เพราะว่ามันใส่ไม่สบาย และกระเป๋าก็ไม่ได้เอามาใช้เพราะเพิ่งพบว่ามันหนักเกินไป
สำหรับผมนี่คือความสูญเปล่า จนอดคิดไม่ได้ว่าการซื้อในลักษณะนี้จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างไร นอกจากได้ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวแต่เสียเงินไปตลอดกาล บางครั้งยังคิดว่าสู้ซื้อของดีๆ แพงขึ้นอีกหน่อยแต่ใช้ได้จริงใช้ได้ทนยังดีเสียกว่า ของดีแต่ไม่ถึงกับต้องแบรนด์เนม ทฤษฎีของผมมีดังนี้ครับ
- ถ้าซื้อของลดราคา 20% มา 5 ชิ้น เสร็จแล้วใช้ไม่ได้ชิ้นหนึ่ง ก็มีค่าเท่ากับซื้อของราคาปกติ
- ถ้าซื้อของคุณภาพไม่ดี เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ถูก ใช้งานได้เพียง 2-3 ปีก็พังแถมยังกินไฟอีก สู้ซื้อสินค้าคุณภาพดีใช้งานได้เป็นสิบปีคุ้มค่ากว่า
- ถ้าซื้อของโดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีเร็วเกินไป นอกจากจ่ายแพงแล้วยังได้ของสเปกต่ำกว่าอีกด้วย
- ถ้าซื้อของเพียงเพราะกิเลสอยากได้ แต่ไม่ได้จำเป็นจริงๆ เมื่อชาวบ้านเขาเปลี่ยนเทรนด์กันก็เปลี่ยนตามบ้าง อย่างนี้ไม่มีทางคุ้มค่า
เห็นด้วยเลย
ตอบลบมือถือแพงๆ ยิ่งซื้อเร็ว เอาไว้อวดเพื่อนว่าเป็นรุ่นใหม่ ได้ใช้ก่อนใคร จริงๆแล้วที่ได้อีกอย่างคือจะได้ "เสียเงินมากกว่าใคร" เพราะราคามันจะลดลงเรื่อยๆ ยิ่งซื้อเร็วยิ่งล้าสมัยเร็ว และมักจะมีปัญหา เหมือนเราเอามาลองใช้ เป็นหนูทดลองให้บริษัทผู้ผลิต
ดูอย่าง iPhone4 สิ ตอนแรกๆ ก็อื้อหือ โอ้โห ตื่นเต้นกัน ตอนนี้คนด่ากันเพียบ ศาสดาจ็อบส์ยังออกมายอมรับว่า iPhone4 มีข้อบกพร่องจริงๆ โดยรวมๆ แล้ว ตอนนี้ต้องถือ iPhone3 3Gs ยังดีกว่าเสียอีก
ส่วนเรื่องของลดราคา เราไม่ค่อยสนใจ วิธีประหยัดสุดสำหรับเราคือ "ซื้อของเมื่อจำเป็น" เท่านั้น
บางครั้งคิดว่า ซื้อได้ถูก = เก่ง
ตอบลบเพราะโดยธรรมชาติสาวๆ เขาจะให้กำลังใจกัน
"ว๊าย ซื้อที่ไหนทำไมถูกจัง"
"สวยมากๆ อ่ะ จริงมั๊ยเธอ" (หันไปชักชวนคนอื่นๆ มาดูอีก)
เพราะฉะนั้น จงระมัดระวังเวลาที่สาวๆ ออกไปช้อปปิ้งกันเป็นหมู่คณะ เพราะมีแนวโน้มที่จะให้กำลังใจกันและกัน