วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ลาพักร้อน


มนุษย์เงินเดือนหรือคนที่ทำงานประจำ คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักการ "ลาพักร้อน" ความจริงแล้วสิ่งนี้น่าจะถือเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ของหลายคนได้เลยเสียด้วยซ้ำ บางคนพอได้ปฏิทินปีใหม่มาก็รีบเปิดดูทันทีว่าปีหน้ามีวันหยุดยาวช่วงไหนบ้าง ในหัวก็วางแผนเสร็จสรรพ หาที่เที่ยว หาคนไปด้วยเรียบร้อย (แต่เงินยังไม่ได้หานะครับ)

ค่านิยมเรื่องการลาพักร้อนเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยคิดว่าพักร้อนทั้งทีจะต้องไปเที่ยวไกลๆ สมัยก่อนที่ยังทำงานประจำ เมื่อผมลาพักร้อนแล้วบอกว่า "นอนอยู่บ้าน" หลายคนจะทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่า แล้วจะลาไปทำไม

การลาพักร้อนในความหมายของพวกเขา คือ ลางานยาวๆ ออกเดินทางไปเที่ยวไกลๆ ถ้าไม่ใช่ต่างจังหวัดก็ต้องเป็นต่างประเทศ ไปเที่ยวแล้วก็ต้องเอาให้คุ้ม ออกเที่ยวตั้งแต่เช้า และกลับเข้าที่พักให้ดึกที่สุดเท่าที่จะมีปัญญา กลับมาก็ต้องมีของฝากพะรุงพะรัง

แต่ว่า... นั่นไม่เห็นจะเป็นการ "พักผ่อน" สำหรับผมตรงไหนเลย (ขออภัยถ้าคิดไม่ตรงกับคนอื่นๆ นะครับ)

ในความเห็นของผม กิจกรรมที่ว่ามานั้นน่าจะทำให้ผมเหนื่อยมากขึ้น อาจจะสนุก แต่ก็เป็นความสนุกแบบเหนื่อยๆ เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการพักผ่อนจริงๆ อย่างที่ใครๆ เรียกว่า การชาร์จแบต ผมก็จะพักอยู่ที่บ้านในวันธรรมดา ซึ่งคีย์เวิร์ดมันก็อยู่ตรงนี้ครับ

หลังจากตื่นนอนแล้ว ผมจะออกไปเดินเล่นแถวๆ บ้าน ดูวิถีชีวิตของผู้คน ได้เห็นบางคนกระวีกระวาดเดินทางไปทำงาน บางทีก็แทบจะ "วิ่ง" เพราะกลัวไปสาย เมื่อเห็นแล้วผมก็ย้อนกลับมาบอกตัวเองว่า เราโชคดีแค่ไหนที่มีวันหยุด ได้เอ้อระเหยลอยชายชมนกชมไม้ ในขณะที่คนอื่นต้องใช้ชีวิตอย่างวุ่นวาย ต่อจากนั้นผมก็จะอุดหนุนกาแฟสดและปาท่องโก๋แถวบ้านเป็นอาหารเช้า

พอตอนสายตลาดหุ้นเปิดทำการ ผมก็จะเปิดทีวีเพื่อดูตัวหุ้นที่วิ่งอยู่บนหน้าจอ พร้อมกับผู้ดำเนินรายการสาวที่มักจะทำท่าทางตื่นเต้นไปกับทุกข่าวสารที่อาจกระทบกับราคาหุ้น ทำให้ผมพอจะเข้าใจว่า เหตุใดนักลงทุนที่เกาะติดตลาดหุ้นจึงมักจะลุกลี้ลุกลนกับข้อมูลข่าวสารที่ถาโถมเข้ามา และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่มีโอกาสได้เห็นในวันธรรมดาอื่นๆ เนื่องจากต้องไปทำงาน

แต่จะว่าไปมันอาจเป็นเรื่องดี เพราะถ้าผมเกาะติดหน้าจออย่างนี้ทุกวัน บางทีจิตใจอาจหวั่นไหวไปกับข่าวสัพเพเหระพวกนี้ก็เป็นได้

ตอนกลางวันผมจะหาโอกาสออกไป "เดินห้าง" เพื่อซึมซับความรู้สึกของการเดินห้างวันธรรมดา ผู้คนไม่พลุกพล่าน ที่จอดรถหาง่าย พนักงานขายก็กุลีกุจอต้อนรับ แล้วเวลาขับรถกลับบ้านก็กะเวลาให้ถึงบ้านก่อนช่วงรถติดตอนเย็น บางทีก็ได้เห็นลุงๆ ป้าๆ แถวบ้านเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็ทักทายกับเพื่อนบ้านที่เริ่มทยอยกันกลับมาจากที่ทำงาน

พูดได้ว่าผม ออกแบบ ชีวิตให้ชิลล์สุดๆ ได้ อย่างน้อยก็ในวันพักร้อนนี้

จริงอยู่ว่า ผมอาจจะไม่มีรูปถ่ายเอาไว้อวดคนอื่น ไม่มีเรื่องราวเก๋ๆ อัพลงโซเชียล ไม่มีของฝากไว้แจกเพื่อนร่วมงาน แต่ถ้าถามว่า "แบต" ของผมเต็มหรือเปล่า ... ตอบได้ว่า "เต็มสุดๆ ครับ"