วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ส่วนลดจากโทรศัพท์มือถือ


ผมใช้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่ง โปรโมชั่น บริการ รวมทั้งคุณภาพสัญญาณก็ถือว่าโอเคครับ ที่มากกว่าเรื่องของโทรศัพท์ก็คือส่วนลดที่มักจะให้กดดอกจัน (*) ตามด้วยตัวเลขอะไรก็ว่าไป ซึ่งเป็นที่มาของสิ่งที่เราจะมาพูดกัน

จริงๆ แล้วผมแบ่งส่วนลดที่เขาให้มาเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือส่วนลดสินค้าหรือบริการที่ผมใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนประเภทที่สองคือส่วนลดอื่นๆ

ผมมองอย่างนี้ครับ ถ้าเป็นส่วนลดสินค้าหรือบริการที่ผมต้องใช้อยู่แล้ว เช่น โทรฟรีทุกเครือข่าย 30 นาที (ใจดีขนาดนี้ต้องใช้) เล่นอินเตอร์เน็ตไม่จำกัดฟรี 3 วัน เป็นต้น ส่วนลดในลักษณะนี้ไม่มีประเด็นที่ผมจะไม่สมัครเลยครับ ว่าแล้วก็คว้าโทรศัพท์มากดดอกจัน บลา บลา บลา... แล้วกดโทรออก

ประเด็นอยู่ที่ส่วนลดประเภท "out of universe" ไม่เคยอยู่ในหัวของผมเลย เช่น ส่วนลดสมูทตี้ของคุณไก่ วรายศ (นามสมมติ) หรือส่วนลดอ่าวมะพร้าว คลิฟ บีช รีสอร์ท 50% หรือส่วนลดบัตรรวมเครื่องเล่นที่ดรีมมี่เวิลด์ พวกนี้มากกว่าที่ทำให้ผมต้องคิดว่า "เอ๊ จะไปใช้บริการดีมั๊ย?"

ที่จริงแล้วโดนหลอก

เคยมีคนบอกผมว่า "ส่วนลด 20% หรือ 30% จะน่าสนใจตรงไหน ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราไม่คิดจะซื้อตั้งแต่ต้นก็เท่ากับได้ส่วนลด 100% อยู่แล้ว" แถมยังสำทับว่าเก็บเงินเอาไว้ซื้อของที่จำเป็นหรือของที่อยากได้จริงๆ จะดีกว่า ...จำใส่หัวไว้แม่นยำจนถึงบัดนี้เลยครับ

ถ้าบังเอิญว่า... ผมเดินไปห้างสรรพสินค้าแล้วเหลือบไปเห็นร้านสมูทตี้ของคุณไก่ วรายศ ทันใดนั้นบังเกิดความหิวน้ำขึ้นมา (อุปาทานมากๆ) กำลังจะเดินเข้าไปสั่งน้ำ ปรากฏว่าหันไปดูราคา โอ้วว แพงมาก จึงตัดสินใจไปสั่งน้ำผลไม้ปั่นจากร้านใกล้ๆ แทน อร่อยเหมือนกันแถมถูกกว่าของคุณไก่ที่หักส่วนลดแล้วอีกต่างหาก

ถ้าบังเอิญว่า... ผมนึกอยากไปเที่ยวทะเลจึงโทรไปหาอ่าวมะพร้าว คลิฟ บีช รีสอร์ท แหม ได้ลดตั้ง 50% พอฟังราคาห้อง จ๊ากก นี่ลดแล้วเหรอ เลยเปลี่ยนใจอยู่บ้านแทน ประหยัดค่าเครื่องบิน ค่าเช่ารถ ค่าอาหาร และค่าโรงแรมไปได้ ปีนี้เก็บเงินไว้ก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวสิงคโปร์ปีหน้าซะเลยดีกว่า อันนั้นอยากไปมาตั้งแต่แรกแล้ว

ถ้าบังเอิญว่า... ผมอยู่ว่างๆ เอ้า ย้อนวัยเด็กไปเที่ยวสวนสนุกดีกว่า เลยยกกันไปหมดบ้านไปเที่ยวดรีมมี่เวิล์ด นับไปนับมาเรามีกัน 5 คน บัตรรวมเครื่องเล่นก็คนละ 390 บาทหลังหักส่วนลด ไม่นับค่ากิน ค่าเดินทาง เบ็ดเสร็จแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 3 พันบาท ทั้งที่จริงพวกเราชอบไปเที่ยวอะไรสงบๆ ไปอยุธยา ไปเกาะเกร็ด ฯลฯ

เมื่อลองคิดถึง "ตัวเลือกอื่น" จะเห็นว่าผมมี alternative อื่นๆ อยู่มาก และบางอันก็เข้ากับชีวิตปกติของผมและครอบครัวมากกว่าด้วย

อยู่เฉยๆ คือการหาเงินมาได้

คำหนึ่งที่ผมได้ยินมาคือ "ประหยัด 1 บาท คือหาเงินเพิ่มได้ 1 บาท" แต่สิ่งที่ผมกำลังนำเสนอคือ "หยุดการใช้เงินแย่ๆ 1 บาท คือหาเงินเพิ่มได้ 1 บาท"

เมื่อคนเรามีกิเลสมากมาย ทั้งที่เกิดขึ้นเองในฐานะของปุถุชนคนหนึ่ง และที่เกิดขึ้นจากคนอื่นพยายามยัดเยียดหรือสร้างให้ คนเรามักคิดถึงการ "หาเงินเพิ่ม" มาเป็นอันดับแรก แต่ถามว่าการหารายได้เพิ่ม เช่น หาอาชีพเสริม หรือทำงานนอกเวลางาน กับการลดรายจ่ายอย่างไหนง่ายกว่ากัน คนส่วนมากคิด...แล้วก็ตอบว่าลดรายจ่าย

ประเด็นคือถ้าคุณลดรายจ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว (เช่น ค่าอาหารประจำวัน เปลี่ยนจากกินร้านแพงๆ ไปกินร้านธรรมดา) จะประหยัดได้ทางหนึ่ง และถ้าคุณตัดรายจ่ายที่ยังไม่เกิดขึ้น (เช่น ค่าเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เคยคิดอยากจะไป) จะช่วยหยุดการใช้เงินแย่ๆ ได้อีกทางหนึ่ง เบ็ดเสร็จแล้วคุณ "หาเงินเพิ่ม" ได้ถึง 2 ทาง

ลองคิดทบทวนดูนะครับว่าคุณเผลอใช้ "ส่วนลด" พวกนี้ไปบ้างหรือเปล่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น