วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ออมเงินถึงชาติหน้า...


ผมเคยมีความสงสัยว่า ถ้าเราเก็บเงินออมปีแล้วปีเล่าไปจนถึง infinite (ชั่วนิรันดร์) จะสามารถสู้คนที่เอาเงินไปลงทุนได้หรือไม่ แน่นอนว่าถ้าเราเทียบกับคนที่ลงทุนเก่งๆ อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คำตอบที่ได้คือ "ลงทุนรวยกว่า" แหงๆ อยู่แล้ว ...แต่ถ้าเป็นการลงทุนแบบชิลล์ๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ไม่ยากล่ะ?? คนที่ออมอย่างมีวินัยจะสู้ได้หรือเปล่า

ออมเงินถึงชาติหน้า ปะทะ ลงทุนแบบชิลล์ๆ

หนังสือจำพวกบริหารเงินส่วนบุคคลมักบอกให้คนลงทุน โดยยกตัวอย่างการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน 20% (หรืออย่างน้อยๆ ก็ 10-15%) แล้วก็บอกว่า "นี่ไง เห็นมั๊ย! ลงทุนแล้วมีเงินเยอะ" ซึ่งผมเห็นว่าไอเดียก็ดี แต่มันออกจะดีเกินจริงไปสักหน่อย เพราะคนทั่วไปคงทำผลตอบแทนไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพราะแม้กระทั่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองยังทำผลตอบแทนได้ในระดับ 20 เปอร์เซ็นต์ต้นๆ เท่านั้นเอง (ปี 1965-2005 ทำได้เฉลี่ย 21.5% ต่อปี)

งั้นถ้าผลตอบแทนซัก 8% ล่ะ พอไหวมั๊ย? ผมดูสถิติของตลาดหุ้นไทยบวกกับเงินปันผลก็พบว่าน่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างมาก สมมติว่าเราซื้อหุ้นดีๆ ที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในอัตราปีละ 5% ซึ่งน่าจะหาได้ไม่ยาก และคาดหวังให้ราคาหุ้นขยับขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% แค่นี้ก็เข้าทางเราแล้ว เริ่มเลยดีกว่า

ออมเงินแบบมด

ผมเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของมด โดยบอกว่าหากเราเดินช้าๆ ไปเรื่อยแบบที่มดทำ เผลอแป๊บเดียวก็จะไปได้ไกลอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว งั้นถ้าผมออมเงินแบบมดบ้างล่ะ? สมมติว่าเก็บเงินได้เดือนละ 4,000 บาท หรือปีละ 48,000 บาท แล้วออมในระดับนี้ไปเรื่อยๆ ชั่วนิรันดร์ (ผมปรับเพิ่มการออมด้วยนิดหน่อยตามภาวะเงินเฟ้อปีละ 4%)

ปีแรกผมเก็บได้ 48,000 บาท พอปีที่สองผมเก็บ 49,920 บาท คือ บวกชดเชยเงินเฟ้อเข้าไปหน่อย แล้วออมแบบนี้ไปเรื่อยๆ เงินออมของผมจะเป็นไปตามภาพด้านล่างครับ จบ 40 ปีจะมีเงินออมประมาณ 4.56 ล้านบาท

ลงทุนแบบชิลล์ๆ

เทียบกันแบบสมน้ำสมเนื้อ ผมเก็บเงินปีละ 48,000 บาทเหมือนกัน แต่คราวนี้เอาไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 8% ต่อปี พอปีที่สองก็เก็บ 49,920 บาทแล้วเอาไปลงทุนเพิ่มอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอจบ 8 ปีผมก็ไม่ต้องใส่เงินออมเพิ่มแล้ว แค่ปล่อยให้เงินลงทุนโตด้วยตัวของมันเองต่อไป ...จบ 40 ปีผมจะมีเงินทั้งสิ้น 6.79 ล้านบาท



สังเกตนะครับว่าในกรณีที่เราลงทุน กราฟจะหักเล็กน้อยตอนปีที่ 8 นั่นเป็นเพราะเราเลิกใส่เงินออม แต่ถึงกระนั้นพอร์ตการลงทุนของเราก็ยังโตชนะการออมแบบมดโดยตลอด และถ้าเราลากกราฟต่อไปจนถึง infinite ก็คงเดาได้ว่าพอร์ตลงทุนจะยิ่งทิ้งการออมแบบมดแทบไม่เห็นฝุ่น ผมเจตนาเขียนแบบสั้นๆ ไม่ซับซ้อน เพื่อชี้ให้เห็นว่าแม้เราจะลงทุนแบบพื้นๆ ก็ยังดีกว่าออมเงินไปเฉยๆ แบบไม่ใช้สมอง

ทีนี้ก็ขึ้นกับคุณแล้วล่ะครับ ว่าอยากเหนื่อยเดินแบบมดไปชั่วชีวิต หรือทำการบ้านหน่อยแล้วเหนื่อยแค่ 8 ปี และที่สำคัญ แนวทางนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ใครๆ ก็ทำได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น